สถานประกอบการเหมืองแร่กับความสำคัญของการมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย

สถานประกอบการเหมืองแร่ถือเป็นหนึ่งในสถานประกอบอาชีพที่เป็นอันตรายอย่างมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมและปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ภายในสถานประกอบการนั้นสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของพนักงานและสุขภาวะชุมชนใกล้เคียงทั้งในระยะสั้นและระยะยาว รวมถึงอุบัติเหตุจากเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้ในสถานประกอบการเหมืองแร่อาจก่อให้เกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้ทันที

ด้วยเหตุนี้กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหารและจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน พ.ศ. 2549 กำหนดให้สถานประกอบการเหมืองแร่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานคอยวางแผน กำกับ และดูแลความปลอดภัยในการทำงานอย่างละเอียดรอบคอบในทุกขั้นตอน เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และผู้ที่อยู่ใกล้เคียง

ผลกระทบจากการทำเหมืองแร่หรือการประกอบสถานประกอบการเหมืองแร่

  • สภาพการใช้ชีวิตของชุมชนใกล้เคียงลำบากยิ่งขึ้น

เพื่อให้ง่ายต่อการปฏิบัติงานในสถานประกอบการเหมืองแร่ จำเป็นต้องมีการใช้รถสิบล้อขนาดใหญ่ขนส่งสินค้าและเครื่องจักรที่มีน้ำหนักสูงในทุกวัน ส่งผลให้ถนนเส้นทางหลักที่ชาวบ้านใช้งานเสื่อมสภาพและเกิดการชำรุดอย่างรวดเร็ว อีกทั้งเศษหินจากการระเบิดและการทำลายผืนป่าเพื่อเปิดหน้าดินยังทำให้ชาวบ้านที่หากินกับแหล่งธรรมชาติเกิดความลำบากยิ่งขึ้น เพราะแหล่งทำมาหากินถูกทำลายลง

  • ผลเสียด้านสุขภาพของผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง

มลภาวะทางเสียงและมลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้นจากการทำสถานประกอบการเหมืองแร่นับเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะการทำเหมืองแร่จำเป็นต้องมีการขุดระเบิดและฉีดน้ำเพื่อช่วยในการเปิดหน้าดินขุดหาแร่ ทำให้จึงต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยคอยควบคุมและดูแลบริเวณสภาพแวดล้อมภายในเหมืองแร่ รวมถึงแหล่งชุมชนใกล้เคียงที่จะได้รับผลกระทบด้านฝุ่นควันและเสียงที่ส่งผลเสียด้านสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาวของพนักงานและชาวบ้านใกล้เคียง อีกทั้งน้ำขุ่นข้นจากฉีดน้ำแยกแร่ยังทำให้แหล่งน้ำใกล้เคียงมีตะกอนขุ่นและไม่ถูกสุขอนามัยอีกด้วย

  • ระบบนิเวศที่เสียสมดุล

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการประกอบสถานประกอบการเหมืองแร่จำเป็นต้องมีการระเบิดภูเขา ซึ่งการระเบิดภูเขาหมายถึงว่าคุณกำลังเริ่มต้นทำลายระบบนิเวศองค์รวมให้เกิดการเสียสมดุล เนื่องจากภูเขาเป็นหนึ่งในจุดสำคัญที่เชื่อมต่อกับผืนป่าที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของต้นไม้และสัตว์ที่ช่วยให้ระบบนิเวศเกิดการสมดุล รวมถึงจุดกำเนิดแหล่งน้ำธรรมชาติและสมุนไพรหายากบางชนิด

หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยภายในสถานประกอบการเหมืองแร่

  1. กำกับและดูแลให้ลูกจ้างในสถานประกอบการเหมืองแร่ปฏิบัติตามข้อบังคับและคู่มือ
  2. ค้นหาความเสี่ยงหรืออันตรายจากการปฏิบัติงานในสถานประกอบการเหมืองแร่เพื่อรายงานให้กับนายจ้าง
  3. สอนวิธีปฏิบัติงานที่ถูกต้องให้ลูกจ้างในสถานประกอบการปฏิบัติตาม
  4. ตรวจสอบสภาพความพร้อมของเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่ใช้งานในสถานประกอบการเหมืองแร่ทั้งหมดก่อนปฏิบัติงานทุกวัน
  5. กำกับและดูแลการใช้อุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคลของลูกจ้างในสถานประกอบการเหมืองแร่
  6. รายงานการประสบอุบัติเหตุอันตราย การเจ็บป่วย และเหตุเดือดร้อนเนื่องจากการทำงานของลูกจ้างในสถานประกอบการเหมืองแร่ต่อหน่วยความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับต่าง ๆ พร้อมแผนปรับปรุงแก้ไขแก่นายจ้าง
  7. ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุในสถานประกอบการและนำเสนอแนวทางแก้ไขต่อนายจ้างและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับต่าง ๆ
  8. ส่งเสริมและสนับสนุนจัดเตรียมกิจกรรมความปลอดภัยในการทำงานแก่ลูกจ้างและนายจ้างในสถานประกอบการ
  9. ปฏิบัติงานด้านความปลอดภัยในการทำงานอื่นตามที่เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานระดับสูงและนายจ้างมอบหมาย

 

อุปสรรคที่ทำให้มาตรการความปลอดภัยในการทำงานไม่เกิดประสิทธิภาพ รวมถึงอันตรายที่เกิดขึ้นจากสถานประกอบการเหมือง ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงอันตรายสูงจากการใช้งานเครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์สำหรับใช้งานในเหมืองแร่ หรือจะเป็นการชำรุดของอุปกรณ์เครื่องมือที่ไม่ได้มาตรฐาน ทุกปัญหามักเกิดขึ้นจากการขาดระบบจัดเก็บข้อมูล ศึกษาหาสาเหตุ และวางแผนแก้ไขที่มีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นที่ทุกสถานประกอบการเหมืองแร่ต้องมีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย หรือ จป ในการทำงานปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันและลดปัญหาที่เกิดขึ้นขณะทำงานในสถานที่ที่เสี่ยงอันตราย รวมถึงวางแผนเพื่อแก้ไขและเตรียมรับมือกับอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

หากใครที่กำลังมองหาคอร์สอบรมเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย สามารถดูได้ที่ :  อบรม จป วิชาชีพ , อบรม จป เทคนิค