กฎหมาย อบรม คปอ และ อบรม ผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย

กฎหมาย อบรม คปอ และ อบรม ผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย

กฎหมาย ประกาศกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เรื่อง หลักสูตรการฝึกอบรม คุณสมบัติวิทยากร และการดำเนินการฝึกอบรมคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการและผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย

แต่ยังไม่สามารถอบรมได้ในตอนนี้เนื่องจากจะต้องรอให้ทางวิทยากร และ หน่วยฝึกอบรมทำการยื่นขึ้นทะเบียนเสียก่อน และ ผู้ที่จะทำการเปิดอบรมได้จะต้องมีเลขทะเบียนอนุญาตจัดฝึกอบรม คปอ พร้อมคู่มือการเรียนการสอน หากไม่มี 2 อย่างดังกล่าวถือว่าการฝึกอบรมไม่ได้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด หรือ ผิดกฎหายนั้นเอง ดังนั้นโปรดอดใจรอน่าจะประมาณ 2 เดือนนับจากกฎหมายตัวนี้ประกาศออกมา

กฎหมายใหม่ อบรม คปอ มีอะไรบ้าง

ข้อ 43 กำหนดให้นายจ้างหรือผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมดำเนินการฝึกอบรมเพื่อให้ลูกจ้างมีคุณสมบัติเป็น คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการ และผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย ทั้งนี้ หลักสูตรการฝึกอบรม คุณสมบัติของวิทยากร และการดำเนินการฝึกอบรมของนายจ้างหรือผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมให้เป็นไปตามที่อธิบดีประกาศกำหนด อาศัยอำนาจตามความในข้อ 43 วรรคสอง แห่งกฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย ในการทำงาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

หมวด 1 หลักสูตรการฝึกอบรม

ข้อ 2 หลักสูตรคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ของสถานประกอบกิจการ ระยะเวลาการฝึกอบรมสิบสองชั่วโมง ประกอบด้วย 3 หมวดวิชาดังต่อไปนี้

(1) หมวดวิชาที่ 1 การบริหารคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานของสถานประกอบกิจการ ระยะเวลาการฝึกอบรมสามชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) แนวคิดการจัดการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
(ข) แนวคิดการบริหารคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานของสถานประกอบกิจการ
(ค ) หน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานของสถานประกอบกิจการ

(2) หมวดวิชาที่ 2 กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระยะเวลาการฝึกอบรมสามชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) สาระสำคัญของพระราชบัญญัติความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน พ.ศ. 2554 และกฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565
(ข) สาระสำคัญของกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เกี่ยวข้อง และการนำกฎหมายไปสู่การปฏิบัติ

(3) หมวดวิชาที่ 3 การบริหาร จัดการด้านความปลอดภัยตามบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของสถานประกอบกิจการ ระยะเวลา การฝึกอบรมหกชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) การจัดทำนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
(ข) การจัดทำแนวทางการป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ การประสบอันตราย การเจ็บป่วย จากการทำงานของลูกจ้าง
(ค) การจัดทำระบบการรายงาน เสนอแนะมาตรการหรือแนวทางการปรับปรุงแก้ไข สภาพการทำงานของลูกจ้าง
(ง) การส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงาน
(จ) การพิจารณาคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานของสถานประกอบกิจการ
(ฉ) การสำรวจด้านความปลอดภัยในการทำงาน
(ช) การพิจารณาโครงการหรือแผนการฝึกอบรมเกี่ยวกับความปลอดภัยในการทำงาน
(ซ) การประเมินผลการดำเนินงานด้านความปลอดภัยในการทำงาน
(ฌ) การประชุมและการติดตามงาน

ข้อ 3 หลักสูตรผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย ระยะเวลาการฝึกอบรมสี่สิบสองชั่วโมง ประกอบด้วย 6 หมวดวิชา ดังต่อไปนี้ อบรม ผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย

(1) หมวดวิชาที่ 1 การบริหารหน่วยงานความปลอดภัย ระยะเวลาการฝึกอบรมสามชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) หน้าที่ของหน่วยงานความปลอดภัย
(ข) บทบาทหน้าที่ของผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัยและการพัฒนาการเป็นผู้บริหาร
(ค) กลยุทธ์การบริหารหน่วยงานความปลอดภัย

(2) หมวดวิชาที่ 2 การบริหารงานตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานในสถานประกอบกิจการ ระยะเวลาการฝึกอบรมสามชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานของ กระทรวงแรงงานและหน่วยงานอื่น ๆ
(ข) กลยุทธ์การจัดการตามกฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน

(3) หมวดวิชาที่ 3 การบริหารความเสี่ยงและการจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยง ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระยะเวลาการฝึกอบรมหกชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) แนวคิดการบริหารจัดการความเสี่ยง
(ข) เทคนิคการจัดการความเสี่ยงและการจัดทำแผนงานบริหารการจัดการความเสี่ยง
(ค) การกำกับ ติดตาม และการรายงานผลการบริหารการจัดการความเสี่ยง

(4) หมวดวิชาที่ 4 การจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคจากการทำงาน ระยะเวลาการฝึกอบรมเก้าชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) แนวคิดในการจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุ อุบัติภัย และโรคจากการทำงาน
(ข) การจัดทำข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยในการทำงานด้านอาชีวอนามัย สุขศาสตร์อุตสาหกรรม และโรคจากการทำงาน
(ค) การจัดทำข้อเสนอแนะ เกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัยในการทำงานด้านวิศวกรรม

(5) หมวดวิชาที่ 5 การจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน ระยะเวลาการฝึกอบรมเก้าชั่วโมง ประกอบด้วยหัวข้อวิชา

(ก) ระบบการจัดการด้านความปลอดภัยในการทำงาน และการตรวจประเมินระบบการจัดการ ด้านความปลอดภัย
(ข) การติดตาม การประเมินผล และการรายงานผลการดำเนินการด้านความปลอดภัย ในการทำงาน
(ค) การจัดทำคู่มือว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงานของหน่วยงานที่รับผิดชอบ และของสถานประกอบกิจการ
(ง) แนวคิดการจัดอบรมด้านความปลอดภัยในการทำงาน
(จ) การจัดกิจกรรมด้านความปลอดภัยในการทำงานที่เหมาะสมกับองค์กร

(6) หมวดวิชาที่ 6 การฝึกปฏิบัติ ระยะเวลาการฝึกอบรมสิบสองชั่วโมง ประกอบด้วย หัวข้อวิชา

(ก) การฝึกปฏิบัติการบริหารความเสี่ยง การจัดทำแผนการจัดการความเสี่ยง และข้อเสนอแนะในการจัดการความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม ในการทำงาน
(ข) การฝึกปฏิบัติการจัดทำระบบการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

หมวด 2 คุณสมบัติของวิทยากร

ข้อ 4 วิทยากรผู้ทำการฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

(1) เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้องกับหมวดวิชา ที่บรรยาย มีประสบการณ์ในการทำงานด้านความปลอดภัยในการทำงานติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปีและมีประสบการณ์การเป็นวิทยากรด้านความปลอดภัยในการทำงานไม่น้อยกว่าสามปี ทั้งนี้ การนับ ระยะเวลาห้าปีหรือสามปีดังกล่าวให้นับจากปีที่ขอความเห็นชอบหรือขอรับการรับรอง
(2) เป็นอาจารย์ในสถาบันอุดมศึกษาที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีในสาขาที่เกี่ยวข้อง กับหมวดวิชาที่บรรยาย และมีประสบการณ์การสอนด้านความปลอดภัยในการทำงานไม่น้อยกว่าสามปี นับจากปีที่ขอความเห็นชอบหรือขอรับการรับรอง
(3) เป็นเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของรัฐ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาในการเป็นวิทยากรฝึกอบรมที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรี มีประสบการณ์ในการทำงานด้านความปลอดภัย ในการทำงานติดต่อกันไม่น้อยกว่าห้าปี และมีประสบการณ์การเป็นวิทยากรด้านความปลอดภัยในการทำงาน ไม่น้อยกว่าสามปี ทั้งนี้ การนับระยะเวลาห้าปีหรือสามปีดังกล่าวให้นับจากปีที่ขอความเห็นชอบ หรือขอรับการรับรอง
(4) เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีและมีความรู้ในสาขาที่เกี่ยวข้องกับ หมวดวิชาที่บรรยาย ทั้งนี้ ต้องมีประสบการณ์ในการทำงานด้านความปลอดภัยในการทำงานติดต่อกัน ไม่น้อยกว่าห้าปี และมีประสบการณ์การเป็นวิทยากรด้านความปลอดภัยในการทำงานไม่น้อยกว่าสามปี

หมวด 3 การจัดฝึกอบรมของผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม

ข้อ 5 ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมประสงค์ที่จะจัดฝึกอบรมต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

(1) เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้บริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และต้องได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพ จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รับรองระบบบริหารงานคุณภาพ หรือ
(2) สถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) หรือ
(3) เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือเอกชน และต้องมีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา จากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือหน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่ประเมิน ระบบการประกันคุณภาพการศึกษา หรือ
(4) เป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์
ข้อ 6 ให้ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมที่มีคุณสมบัติตามข้อ 5 ยื่นคำขอต่ออธิบดี พร้อมด้วยรายชื่อวิทยากร และเอกสารตามแบบ กภ.คปอ.ผบ 1 แนบท้ายประกาศนี้ ณ กองความปลอดภัยแรงงาน หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสำนักงาน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด
ข้อ 7 เมื่อผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม ได้ยื่นเอกสารหรือหลักฐานเพื่อขอรับรองหลักสูตร การฝึกอบรมและรายชื่อวิทยากรถูกต้องและครบถ้วน ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายออกหลักฐาน การรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมและรายชื่อวิทยากรของผู้ยื่นคำขอภายในหกสิบวัน

การออกหนังสือรับรองตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบ กภ.คปอ.ผบ 2/1 สำหรับหลักสูตร คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน หรือแบบ กภ.คปอ.ผบ 2/2 สำหรับหลักสูตรผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย แล้วแต่กรณี และออกได้ คราวละสามปีนับแต่วันที่ได้รับการรับรอง
ในกรณีที่อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายเห็นว่าผู้ยื่นคำขอขาดคุณสมบัติตามข้อ 5 หรือเอกสารหรือหลักฐานตามข้อ 6 ไม่ถูกต้องและครบถ้วน ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย แจ้งให้ผู้ยื่นคำขอทราบทันทีหรือภายในไม่เกินเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับคำขอ หากผู้ยื่นคำขอไม่แก้ไข หรือไม่ส่งเอกสารหรือหลักฐานเพิ่มเติมให้ครบถ้วน ให้ถือว่าผู้ยื่นคำขอไม่ประสงค์ที่จะให้ดำเนินการ ตามคำขอต่อไป และให้จำหน่ายเรื่องออกจากสารบบ ในกรณีเช่นนี้ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ส่งเอกสารคืนผู้ยื่นคำขอ พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งสิทธิในการอุทธรณ์ให้ผู้ยื่นคำขอทราบ

ข้อ 8 การขอต่ออายุการรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมและรายชื่อวิทยากรของผู้ให้บริการ ด้านการฝึกอบรม ให้ยื่นคำขอไม่น้อยกว่าสามสิบวันก่อนวันที่การรับรองจะสิ้นสุด และให้นำความ ในข้อ 5 ข้อ 6 และข้อ 7 มาใช้บังคับแก่การยื่นคำขอต่ออายุการรับรองโดยอนุโลม เมื่อยื่นคำขอต่ออายุการรับรองแล้ว ให้ผู้ได้รับการรับรองดำเนินการต่อไปได้จนกว่าอธิบดี จะสั่งไม่อนุญาตให้ต่ออายุการรับรองนั้น การต่ออายุการรับรองหลักสูตรให้มีอายุคราวละสามปีนับแต่วันที่การรับรองเดิมสิ้นสุด

ข้อ 9 ในกรณีที่เอกสารการรับรองสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดในสาระสำคัญ ให้ยื่นคำขอ ใบแทนการรับรองต่ออธิบดีภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้ทราบถึงการสูญหาย ถูกทำลาย หรือชำรุดดังกล่าว

ข้อ 10 ในกรณีผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองตามข้อ 7 มีการเปลี่ยนแปลง วิทยากร บุคลากรซึ่งทำหน้าที่บริหารจัดการการฝึกอบรม สถานที่ตั้ง หรือมีการเปลี่ยนแปลงอื่นใด จากที่ได้ยื่นขอการรับรองไว้ ให้แจ้งเป็นหนังสือ พร้อมส่งเอกสารแสดงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ต่ออธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง

หมวด 4 การดำเนินการฝึกอบรม

ข้อ 11 ให้นายจ้างหรือผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม ดำเนินการจัดฝึกอบรมตามหลักสูตร ในหมวด 1 และจัดให้มีวิทยากรที่มีคุณสมบัติตามหมวด 2

ข้อ 12 ให้นายจ้างหรือผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมดำเนินการ ดังนี้

(1) กรณีนายจ้างให้แจ้งกำหนดการฝึกอบรม หลักสูตรการฝึกอบรมรายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม พร้อมรายชื่อและคุณสมบัติวิทยากร และเอกสารหรือหลักฐานตามข้อ 12 (8) ต่อสำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือส านักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด เพื่อให้ความเห็นชอบไม่น้อยกว่าสิบห้าวันทำการก่อนการจัดฝึกอบรม ทั้งนี้ อาจแจ้งด้วยตนเองหรือ ผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานก็ได้
(2) กรณีผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมเป็นผู้จัดฝึกอบรม ให้แจ้งกำหนดการฝึกอบรม หลักสูตร การฝึกอบรม รายชื่อผู้เข้ารับการฝึกอบรม พร้อมรายชื่อและคุณสมบัติวิทยากร และเอกสารหรือ หลักฐานตามข้อ 6 ณ กองความปลอดภัยแรงงาน ไม่น้อยกว่าเจ็ดวันทำการก่อนการจัดฝึกอบรม ทั้งนี้ อาจแจ้งด้วยตนเองหรือผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานก็ได้
(3) จัดให้ห้องฝึกอบรมหนึ่งห้องมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมไม่เกินหกสิบคน
(4) จัดให้มีคู่มือประกอบการฝึกอบรม จัดเตรียมอุปกรณ์ สื่อและเอกสารประกอบการฝึกอบรม และสถานที่ที่ถูกสุขลักษณะให้มีความพร้อมใช้งานตลอดเวลาที่มีการดำเนินการ
(5) จัดให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม เข้ารับการฝึกอบรมเต็มเวลาตลอดหลักสูตร
(6) จัดให้มีการประเมินผลทั้งก่อนและหลังการฝึกอบรม
(7) ออกหลักฐานแสดงการผ่านการฝึกอบรมให้แก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรม โดยมีรายละเอียด อย่างน้อย ดังนี้
(ก) ชื่อหน่วยงานที่ออกหลักฐานแสดงการผ่านการฝึกอบรม พร้อมระบุข้อความว่า “จัดฝึกอบรมโดยนายจ้าง ” หรือ “จัดฝึกอบรมโดยผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองหลักสูตร เลขที่ …”
(ข) ชื่อและนามสกุลของผู้ที่ผ่านการฝึกอบรม
(ค) ชื่อหลักสูตรที่ผ่านการฝึกอบรม ให้ระบุข้อความ ดังนี้ “หลักสูตรคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ของสถานประกอบกิจการ ตามข้อ 43 แห่งกฎกระทรวงการจัดให้มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการ ทำงาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้านความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 จำนวน 12 ชั่วโมง ” หรือ “หลักสูตรผู้บริหารหน่วยงานความปลอดภัย ตามข้อ 43 แห่งกฎกระทรวงการจัดให้มี เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน บุคลากร หน่วยงาน หรือคณะบุคคลเพื่อดำเนินการด้าน ความปลอดภัยในสถานประกอบกิจการ พ.ศ. 2565 จำนวน 42 ชั่วโมง ” แล้วแต่กรณี
(ง) ระบุสถานที่ในการฝึกอบรม
(จ) ระบุวัน เดือน และปี ที่เข้ารับการฝึกอบรม
(ฉ) ลงนามโดยนายจ้างหรือผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม แล้วแต่กรณี
(8) จัดให้วิทยากรได้รับการฝึกอบรมหรือมีการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับความปลอดภัยในการ ทำงานเพิ่มเติมปีละไม่น้อยกว่าสิบสองชั่วโมง

ข้อ 13 นอกจากดำเนินการตามข้อ 6 แล้ว ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมต้องดำเนินการ ดังต่อไปนี้

(1) จัดทำค่าบริการที่กำหนดรายละเอียดของค่าใช้จ่ายในการให้บริการเสนอต่อผู้รับบริการ ก่อนการให้บริการ โดยค่าบริการที่ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมจะเรียกเก็บให้คำนวณจากค่าใช้จ่าย ในการให้บริการของผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมรวมกับค่าตอบแทนที่ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมได้รับ จากการให้บริการ ซึ่งค่าตอบแทนดังกล่าวต้องไม่เกินหนึ่งเท่าของจำนวนค่าใช้จ่ายในการให้บริการ ค่าใช้จ่ายในการให้บริการ หมายความถึง ค่าใช้จ่ายที่เป็นต้นทุนในการให้บริการ เช่น ค่าตอบแทนบุคลากร ค่าวัสดุ อุปกรณ์ หรือสถานที่ในการให้บริการ และค่าใช่จ่ายอื่นใดของผู้ให้บริการ ด้านการฝึกอบรม
(2) ไม่เปิดเผยความลับของผู้รับบริการซึ่งล่วงรู้หรือได้มาจากการให้บริการ

ข้อ 14 ให้นายจ้างหรือผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมส่งรายงานผลการฝึกอบรม รายชื่อ ผู้ผ่านการฝึกอบรม และรายชื่อวิทยากร ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เสร็จสิ้นการฝึกอบรม ณ กองความปลอดภัยแรงงาน หรือโดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ หรือยื่นด้วยตนเอง ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือสำนักงาน สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ตามแบบ กภ.คปอ.ผบ 3

ข้อ 15 ในกรณีที่ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม ฝ่าฝืนหรือไม่ดำเนินการตามข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 และ ข้อ 14 อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายอาจเพิกถอนการรับรองหลักสูตรการฝึกอบรม และรายชื่อวิทยากร ให้อธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมายมีอำนาจเข้าไปในสำนักงานของผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรม และสถานที่จัดการฝึกอบรมในเวลาทำการ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง ตรวจสอบ หรือควบคุม ให้ผู้ให้บริการด้านการฝึกอบรมดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศนี้